วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Don McLean - Vincent ( Starry, Starry Night)



 

The Starry Night  
Oil on canvas 73x92 cm. 
Saint-Remy : June,1889

ภาพเขียนสีน้ำมันที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของแวนโก๊ะ เก็บรักษาไว้ที่ The Museum of Modern Art, New York  ปัจจุบันควรมีมูลค่านับพันล้านบาทหากนำออกประมูล  โดยปกติแล้วผลงานของแวนโก๊ะมักเขียนขึ้นใน เหตุการณ์สถานที่จริง แต่ภาพนี้ถูกเขียนจากจินตนาการขณะพักรักษาตัวด้วยอาการป่วยทางประสาท แวนโก๊ะมักบรรยายถึงแนวคิดในผลงานทุกชิ้นไว้อย่างลึกซึ้งแต่กลับไม่มีการกล่าวถึงภาพนี้เอาไว้เลย ภาพจึงได้รับการวิเคราะห์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง 
บางทีตอนนี้เขาอาจอยู่ในที่แห่งใดแห่งหนึ่งเฝ้ามองโลกนี้ผ่านภาพเขียนของเขา และอาจไม่มีใคร
สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของภาพ The Starry Night ในใจเขาได้ตลอดกาล... 


VINCENT ( Starry, Starry Night )
Artist : Don McLean : Year of 1971

Starry, starry night , paint your pallet blue and gray.
Look out on a summer's day
With eyes that know the darkness in my soul.

Shadows on the hills sketch the trees and the daffodils.
Catch the breeze and the winter chills 
in colors on the snowy linen land.

Now I understand what you tried to say to me.
How you suffered for your sanity...   
and how you tried to set them free.
They would not listen they did not know how.
Perhaps they'll listen now.

Starry, starry night, flaming flowers that brightly blaze.
Swirling clouds in violet haze ... 
Reflect in Vincent's eyes of China blue.

Colors changing hue, morning fields of amber grain.
Weathered faces lined in pain 
Are soothed beneath the artist's loving hand.

Now I understand ... what you tried to say to me.
And how you suffered for your sanity... 
and how you tried to set them free.
They would not listen they did not know how.
Perhaps they'll listen now.

For they could not love you, but still your love was true.
And when no hope was left inside on that ... Starry, starry night
You took your life as lovers-often do.

But I could have told you, Vincent
This world was never meant for one as beautiful as you.

Starry, starry night ... 
portraits hung in empty halls.
Frameless heads on nameless walls 
with eyes that watch the world and can't forget.

Like the strangers that you've met, 
the ragged men in ragged clothes.
The silver thorn of bloody rose ... ***
lie crushed and broken on the virgin snow.

Now I think I know what you tried to say to me.
And how you suffered for your sanity... 
And how you tried to set them free.
They would not listen they're not listening still.

Perhaps they never will…

-----------------------------------------------------
คืนดวงดาวพร่างพราวฟ้า... แต่งแต้มจานสีเธอด้วยสีฟ้าสีเทา
เฝ้ามองทิวาวารแห่งคิมหันต์ฤดู 
ด้วยดวงตาที่หยั่งรู้ความหม่นมัวในใจฉัน

เงื้อมเงาทาบทาทิวเขา ขีดเขียนภาพร่างทิวไม้และหมู่ต้นแดฟโฟดีล
สัมผัสสายลมรวยริน และความเยือกเย็นแห่งฤดูกาลเหน็บหนาว
จากมวลสีสันแต่งแต้ม...บนพื้นลินินขาวราวหิมะ...

และแล้วฉันพลันเข้าใจ... สิ่งใดที่เธอพร่ำบอกฉัน
ยากเย็นเพียงไหนที่เธอสู้ฝ่าฟัน 
และเหนื่อยยากเพียงใด เพื่อปลดปล่อยเหล่าผู้คน
ไม่มีใครรับรู้ ไม่เคยมีใครรับฟัง 
อาจบางที...พวกเขาจะรับฟังบ้างแล้ว...

คืนดวงดาวพร่างพราวฟ้า... ดั่งดอกไม้เพลิงโชติช่วงสุกใส
หมู่เมฆหมุนคว้างกลางเงาหมอกม่วงหม่น... 
สะท้อนในดวงตาสีครามของวินเซนต์

สีสันแปรเปลี่ยนความเข้มจาง ท้องทุ่งยามอรุณดั่งโรยเม็ดอำพัน
ใบหน้าอันทุกข์ทน กร้านกรำทรมาน...
พลันได้รับการบรรเทา...ใต้มือเปี่ยมรักแห่งศิลปิน

บัดนี้ฉันจึงเข้าใจ... สิ่งใดที่เธอเพียรบอกฉัน
ยากเย็นเพียงไหนที่เธอสู้ฝ่าฟัน 
และเหนื่อยยากเพียงใด เพื่อการปลดปล่อยเหล่าผู้คน
ไม่มีใครรับรู้ ไม่เคยมีใครเข้าใจ 
บางทีตอนนี้...จะมีใครรับฟังบ้างแล้ว...

แม้ไม่อาจมีใครรักเธอ... แต่รักเธอยังคงเที่ยงแท้เพียงนั้น
และเมื่อยามสิ้นไร้ความหวัง....โอ้ คืนแห่งดาราพร่าพราย...
เธอได้พลีใจกาย เช่นเหล่าผู้มีรักได้เคยกระทำ...

แต่วินเซนต์เอ๋ย... ฉันอาจบอกเธอได้เพียงว่า… 
โลกนี้ไม่เคยคู่ควร... กับผู้งดงามเช่นเธอ...

คืนดวงดาวพร่างพราวฟ้า.... 
รูปเหมือนแขวนไว้ในห้องโถงเวิ้งว้างว่างเปล่า…
ใบหน้าในภาพไร้กรอบ... ติดผนังไว้โดยไร้นาม
กับดวงตาที่ยังเฝ้ามองสรรพสิ่งและไม่เคยลืมเลือน

เหมือนเหล่าคนจรพลัดถิ่นที่เธอเคยพบพาน... 
คนยากไร้ในอาภรณ์คร่ำคร่า...
ดั่งหนามสีเทาเงิน กุหลาบแดงสดใส...
ถูกขยี้แหลกลาญ กลางผืนหิมะขาวสะอาด

บัดนี้ฉันจึงคิดเข้าใจ...สิ่งใดที่เธอเพียรบอกฉัน
ยากเย็นเพียงไหนที่เธอสู้ฝ่าพัน 
เหน็ดเหนื่อยเพียงใด กับการปลดปล่อยเหล่าผู้คน
พวกเขาไม่เคยรับรู้... ยังไม่มีใครยอมรับฟัง...

อาจบางที...พวกเขาไม่มีวันเข้าใจ...

------------------------------------------------
*** Silver thorn, bloody rose

“หนามสีเงิน กุหลาบสีแดง” อาจหมายถึง ความรัก ความหลัง ความหวัง ความฝัน
------------------------------------------------

Credit


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น